Monday, September 24, 2012

Bulldog (บลูด๊อก)


Bulldog (บลูด๊อก) 

 
บูลด็อกที่คุณสมบัติครบถ้วน (The Perfect Bulldog) ควรเป็นบูลด็อกที่มีขนาดลำตัว ปานกลาง ไม่ใหญ่ไป หรือเล็กไป มีขนอ่อนนุ่มและร่างกายดูแล้วมีน้ำหนักและเตี้ย ส่วนหัวใหญ่และสั้น ควรมีหัวไหล่ที่กว้าง พอประมาณและควรมีกระดูกและข้อต่อที่ใหญ่และแข็งแรง ดูจากภายนอกบูลด็อกควรมีบุคลิกที่มีความมั่นใจ สง่าขรึมและแข็งแรง

พฤติกรรมและอารมณ์  ที่สดงออกควรจะบ่งบอกให้เห็นว่า มีนิสัยที่สงบ, อ่อนโยน, กล้าหาร, แต่ไม่ก้าวร้าวหรือดุ

ขนาด ขนาดของบูลด็อกตัวผู้ที่โตเต็มที่แล้วควรมีน้ำหนักอยู่ที่ ประมาณ 50 ปอนด์ หรือ 25 กิโลกรัม สำหรับตัวเมียอยู่ที่ 40 ปอนด์ หรือ 18 กิโลกรัม

ความสมส่วน ความกว้างของกะโหลกศีรษะ วัดจากคางถึงหู ควรที่จะเท่ากับ ความสูงของสุนัข จุดเด่นต่างๆควรมีความเหมาะสมกับสุนัข ไม่ควรมรจุดใดจุดหนึ่งที่ใหญ่ หรือดูไม่เหมาะสมเกินไป

ข้อแตกต่างของ 2 เพศ ในการเปรียบเทียบระหว่าเพศผู้กับเพศเมีย นั้นมีข้อแตกต่างกันมาก เราควรที่จะมีการยกเว้นให้กับเพศเมีย มากกว่าเพราะทั้งบุคลิกและโครงสร้าง ของเพศเมียนั้นด้อยกว่าเพศผู้มาก เพศเมียควรมีคุณสมบัติ พอๆกับเพศผู้ แต่ก็ควรมีข้อยกเว้นบางอย่าง

ส่วนศีรษะ 
ดวงตาและขอบตา เมื่อดูจากด้านหน้า  ลูกตาจะอยู่ต่ำและลึกเข้าไปในกะโหลกศีรษะ  โคนตาจะต้องอยู่ห่างจากใบหูให้มากที่สุด และเมื่อลากเส้นตรงจากมุมขวา เมื่อลากเส้นมาถึงสต๊อปควรจะต้องเป็นเส้นตรง  ดวงตาทั้งสองจะต้องอยู่ด้านหน้าของศีรษะและจะต้องอยู่ห่างจากกันให้มากที่สุด โดยมีข้อแม้ว่าหางตาทั้งสองข้างจ้องอยู่ภายในเส้นโครงร่างของแก้ม  เมื่อดูจากด้านหน้า  ดวงตามีรูปร่างค่อนข้างกลม ขนาดปานกลาง ไม่บุ๋มลึกหรือโปน สีนัยน์ตาเข้มมากๆเปลือกตาจะต้องเปิดตาขาวเมื่อมันจ้องตรงไปข้างหน้าต้องไม่เห็นแผ่นเยื่อที่เปลือกตา

หู หูต้องอยู่สูงขึ้นไป  ขอบหูด้านในส่วนหน้าจะเชื่อมต่อกับโครงร่างของรูปกะโหลกบริเวณมุมบนส่วนหลังของกะโหลก  เพื่อที่ใบหูของมันจะได้อยู่ห่างจากกัน สูง และห่างจากตาทั้งสองข้างมากที่สุด  ใบหูต้องมีขนาดเล็กและบาง  ใบหู “กลีบกุหลาบ” จะเป็นที่พึงปรารถนาที่สุด  ใบหูแบบกลีบกุหลาบนี้จะพับเข้าด้านในลงไปที่ขอบด้านล่าง ขอบหูด้านบนจะโค้งออกและลู่ไปด้านหลัง เปิดให้เห็นภายในของร่องหู (ใบหูต้องไม่ตั้งหรือผึ่ง  มีลักษณะเป็นปุ่มและต้องไม่ถูกตัด)
กะโหลกศีรษะ กะโหลกศีรษะต้องใหญ่มากๆ เส้นรอบวงอย่างน้อยจะต้องวัดได้ยาวเท่ากับส่วนสูงซึ่งวัดถึงระดับไหล่  เมื่อดูจากด้านหน้าแล้วจากกรามล่างถึงจุดยอดของกะโหลกจะต้องมีลักษณะสูงมาก  และจะต้องมีความกว้างมาก และเป็นรูปสี่เหลี่ยม  เมื่อดูจากด้านข้างศีรษะจะต้องสูงมาก  ระยะจากจมูกถึงท้ายทอยจะต้องสั้นมาก  หน้าผากแบนราบ (ไม่เป็นทรงกลมหรือมีลักษณะเป็นโดม ) และต้องไม่เป็นโหนกยื่นออกจากใบหน้า.
แก้ม      ต้องกลมและยื่นออกด้านข้างและด้านหน้าพ้นแนวลูกตา
สต๊อป    หน้าผากหรือกระดูกส่วนหน้าจะต้องมีรูปร่างที่ชัดเจน  กว้างเป็นรูปเหลี่ยมและสูง  ทำให้เห็นเป็นแอ่งเว้าลงไประหว่างตาทั้งสองข้าง  รอยเว้าบริเวณสต๊อปจะต้องกว้าง ลึก และกินไปถึงบริเวณกลางหน้าผาก ดูเป็นเส้นตั้งที่แบ่งศีรษะออกเป็นสองส่วน และเป็นรอยไปจนถึงจุดยอดของกะโหลกศีรษะ
ใบหน้า   ใบหน้าวัดจากส่วนหน้าของกระดูกแก้มถึงปลายจมูกต้องสั้นมาก  หนังริมฝีปากสั้นเป็นแผ่นใหญ่และหยักขึ้นด้านบน  เห็นเป็นรอย ย่นลึกมากตั้งแต่หัวตาถึงมุมปาก
จมูก   ต้องใหญ่  กว้าง และเป็นสีดำ  ปลายจมูกหดลึกเข้ามาอยู่ระหว่างลูกตา  ระยะจากก้นของรอยเว้าที่สต๊อปจนถึงรอยจมูกจะต้องสั้นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้  และมีความยาวไม่เกินระยะจากปลายจมูกถึงขอบริมฝีปากล่างรูจมูกต้องใหญ่กว้างมีสีดำ  ระหว่างรูจมูกต้องมีเส้นให้ชัดเจน  จมูกสีอื่นนอกจากนี้ใช้ไม่ได้     โดยเฉพาะจมูกสีน้ำตาลหรือสีคล้ายตับจะถือว่าหมดสิทธิ์ในการเข้าประกวด.
 

บริเวณปากและแก้มส่วนล่าง      ต้องหนา  กว้าง  และห้อยลงปิดกรามล่างทั้งสองข้าง  ส่วนนี้จะไปเชื่อมต่อกับริมฝีปากล่างและปิดฟันไว้เกือบทั้งหมด  เมื่อหุบปากจะต้องมองไม่เห็นฟันเลย
 

ขากรรไกร    ใหญ่  กว้างมาก  เป็นรูปเหลี่ยม  และมีลักษณะที่เรียกว่า  undershot  ซึ่งหมายความว่ากรามล่างยื่นออกมาเกยกับกรามบน
 

ฟัน  ซี่ใหญ่  แข็งแรง  เขี้ยวทั้งสองข้างอยู่ห่างจากกัน  ระหว่างกลางมีฟันซี่เล็กหกซี่เรียงเป็นแถวตรงได้ระดับกัน

คอ  ต้องสั้น  ใหญ่หนา  แข็งแรง  และโค้งไปสู่แผ่นหลัง  หนังใต้คอจะหย่อนเล็กน้อยแต่ไม่ถึงกับยาน

 แผ่นหลัง      ต้องสั้น  แข็งแรง  ช่วงไหล่กว้างมาก  เมื่อเปรียบเทียบแล้วจะเห็นส่วนลำตัวลำสัน,หลังแคบกว่า  แผ่นหลังจะเว้าลงเป็นแอ่งเล็กน้อยใกล้ๆ บริเวณหัวไหล่  จากนั้นกระดูกสันหลังจะโค้งสูงขึ้นไปถึงบริเวณลำสันหลัง ( ส่วนยอดของลำสันหลังจะต้องอยู่สูงกว่าหัวไหล่ )  จากบริเวณดังกล่าวกระดูกสันหลังจะโค้งกลับลงมาที่หางอีกครั้งหนึ่ง  ส่วนโค้งบริเวณนี้เป็นลักษณะเด่นมากของสุนัขพันธุ์นี้  เรียกกันว่า “Roach back” แผ่นหลังโค้งมักใช้กับม้า  หรือถ้าจะให้ถูกต้องยิ่งขึ้นก็เรียกว่า  “Wheel back” (กลมคล้ายกับวงล้อ)

ช่วงอกและลำตัว ต้องกว้างมากๆ สองข้างลำตัวแน่นเต็ม  ซี่โครงจะต้องโค้งพองามจากไหล่ถึงส่วนล่างของลำตัวจะต้องดูลึกเข้าไประหว่าง หัวไหล่และขาหน้าทั้งสองข้างมีลักษณะห้อยต่ำ  ทำให้มองเห็นลำตัวจะต้องดูลึกเข้าไป  มองเห็นลำตัวกว้าง  ต่ำ  และขาสั้น  ลำตัวมีซี่โครงใหญ่แข็งแรง  ส่วนท้องหดขึ้นไม่ป่องหรือโย้ออก

อก  ต้องกว้างดูลึกและแน่นเต็ม


ไหล่ ล่ำ  เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ  กว้าง  และยื่นโค้งออก  ทำให้ยืนได้มั่นคงและมีพลัง

หาง อาจจะตรงหรือ “เป็นเกลียว” และต้องสั้นในทุกกรณี หางจะห้อยต่ำ โคนหางใหญ่ปลายเล็ก ถ้าเป็นประเภทหางตรง หางจะต้องเป็นรูปทรงกระบอก และเรียวแหลมตลอดหาง ถ้าเป็นประเภทเกลียวส่วนโค้งจะต้องเป็นรูปเห็นได้ชัดเจน ทั้งนี้อาจจะหักโค้งมากๆ หรือมีลักษณะเป็นปุ่มเป็นปมก็ได้ แต่ต้องไม่มีส่วนหางส่วนใดยกสูงขึ้นไปจากโคนหาง

ขาหน้า สั้น มีลักษณะป้อมมาก ตั้งตรง มีกล้ามเนื้อล่ำสัน และอยู่ห่างจากกันน่องโปนออก ทำให้แลดูโก่ง แต่ทั้งนี้กระดูกขาจะต้องไม่โค้งงอหรือโก่ง นอกจากนี้ เท้าทั้งสอง ไม่ชิดกันมากนัก ศอก อยู่ต่ำ ยื่นห่างออกจากลำตัว
 
เท้าหน้า มีขนาดพอดีๆ เล็กกะทัดรัด แต่แข็งแกร่ง นิ้วเท้าเล็ก แยกออกจากกัน ข้อนิ้วเท้ายกสูง เล็บสั้นหนา เท้าหน้าอาจจะตรงหรือบิดออกเล็กน้อยก็ได้ แต่เท้าหลังต้องหันออกด้านข้าง
 
ข้อศอก ควรมีลักษณะที่ต่ำ และควรอยู่ห่างจากลำตัวพอสมควร
 
ขาหลัง ต้องแข็งแรง มีกล้ามเนื้อล่ำสัน ยาวกว่าขาหน้า เพื่อจะยกลำสันหลังให้สูงกว่าไหล่ข้อเท้างอเล็กน้อย เพื่อเพิ่มระยะจากลำสันหลังถึงข้อเท้าให้มากขึ้นและทำให้แข็งแกร่งมั่นคงยิ่งขึ้น ขาส่วนล่างต้องสั้น ตรง และแข็งแรง ข้อเข่าหันออกจากลำตัวเล็กน้อย ด้วยเหตุนี้ข้อเท้าหลังจึงต้องชิดกันและทำให้เท้าหลังบิดออก
 
เท้าหลัง มีขนาดพอดีๆ เล็กกะทัดรัด แต่แข็งแกร่ง นิ้วเท้าเล็ก แยกออกจากกัน ข้อนิ้วเท้ายกสูง เล็บสั้นหนา เท้าหน้าอาจจะตรงหรือบิดออกเล็กน้อยก็ได้ แต่เท้าหลังต้องหันออกด้านข้าง
ขน ควร ตรง สั้น เรียบ และแน่น ,นุ่ม เป็นเงา (ขนไม่หยาบ ไม่ฟู และไม่ขด)

ริ่งเกิ้ล (รอยยับ) และ หนังคอ หัวและหน้าควรมีรอยย่นพอสมควร และ หนังย่นที่คอ หรือรู้จักกันในชื่อ Dewlap ซึ่งควรห้อยอยู่ระหว่างใต้คางและส่วนหน้าของหน้าอก คู่กัน


สีของขน สีของขนควรจะสม่ำเสมอ ดูแล้วสะอาด สีที่จะเห็นได้ในสายพันธุ์นี้มีดังนี้
1. สีน้ำตาลเข้ม 2. สีลายเสือ 3. ขาวทั้งตัว 4. แดงทั้งตัว น้ำตาล , ครีม 5. สลับกันสองสี

หมายเหตุ สีสลับกัน สองสี ต้องเป็นระเบียบ ไม่เป็นหย่อมหรือจุดด่าง ดูแล้วสะอาดตา สีลายเสือที่เหมาะสมควรมีแถมลายพาดที่เห็นชัด และแบ่งเป็นระเบียบ และไม่ควรเป็นสีดำที่ทึบหรือทำให้ดูสกปรก
ท่าเดิน สไตล์และท่าทางมีลักษณะพิเศษ ท่าเดินมีลักษณะตามสบาย เดินลากเท้า แกว่งลำตัวตามด้านข้างในลักษณะ “เดินแกว่ง” (Roll) การเคลื่อนไหวเหมือนกลิ้ง การเคลื่อนไหวควรที่ ดูกะฉับกะเฉง
นิสัย อารมณ์ควรสงบนิ่งและอ่อนโยน กล้าหาร (ไม่ควรมีอารมณ์ดุร้าย )ดูจากภาพนอกแล้วจะบ่งบอกถึงความสง่างาม คุณสมบัติเหล่านี้ ควรเห็นจากสีหน้าของสุนัข และการแสดงออก



0 comments:

Post a Comment